ตะลุยโลกแห่งวิญญาณ ตำนาน ความเชื่อกับ 5 นิยายสยองขวัญฝีมือนักเขียนไทย

    บทความนี้ขอเอาใจนักอ่านนิยายแนวสยองขวัญกันบ้าง แต่พอกล่าวถึงนิยายแนวนี้ หลายคนอาจกำลังนึกถึงนิยายของต่างประเทศ อย่าง IT ของ Stephen King หรือ RING สุดยอดนิยายสยองขวัญจากญี่ปุ่น ซึ่งเราไม่ได้จะมาแนะนำนิยายจากฝากฝั่งต่างประเทศ กลับกันเรามาแนะนำ 5 นิยายจากหมวดลึกลับ สยองขวัญ จากปลายปากกานักแต่งไทย ที่สุดสยองไม่แพ้กัน
     จะมีเล่มไหนบ้าง ถ้าพร้อมหลอนแล้วเช็คลิสต์ไปพร้อมกันเลย!

สิเน่หารอยคำ
ผู้เขียน : อาพัชรินทร์
สิเน่หารอยคำ แต่งโดย อาพัชรินทร์เล่มนี้ยังไม่ต้องเล่าถึงพล็อต เริ่มแค่หน้าปก ก็ดูหลอนเอาเรื่องแล้ว ฉะนั้นนักอ่านที่รักความระทึกขวัญไม่ควรพลาด เล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวของ “วงศ์ตะวัน” นักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่แห่งวงการโรงแรมและการท่องเที่ยว ผู้ได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินและบ้านเรือนเก่าๆ สไตล์ล้านนาในเชียงใหม่เพื่อสร้างโรงแรมแบบล้านนาประยุกต์ในหมู่บ้านวัวลายแหล่งหัตถกรรมเครื่องเงินชื่อดังและเมื่อเขาได้รู้ว่า เรือนปั้นหยา เป็นบ้านของสล่าสาละวินช่างทำเครื่องเงินในอดีต ชายหนุ่มก็ตัดสินใจซื้อมาไว้ในครอบครองทันที ซึ่งความน่าตื่นเต้นเริ่มขึ้นจากตรงนี้ เพราะเพียงวันแรกที่เขาเข้าไปสำรวจสถานที่แห่งนั้น ก็ได้เจอกับวิญญาณสาวชาวล้านนา และต่อมายังพบสลุง หรือขันเงินจำนวนมากในนั้นอีก พร้อมกับเรื่องราวน่าประหลาดเมื่อพบว่ารูปรอยสลักในสลุงที่ได้เห็นเป็นเรื่องเล่าของใครบางคนในอดีตอันเต็มไปด้วยความโศกเศร้า การโหยหา ความรัก และความแค้น
ภายในเล่มดำเนินเรื่องได้น่าติดตามได้จนจบ กับการหาคำตอบและหนทางแก้ไขไปพร้อมตัวละครวงศ์ตะวัน ว่าสลุงเหล่านั้นที่เขาพบเจอต้องคำสาปอะไร มีอดีต หรือมีบ่วงที่แสนเศร้าที่กัดกินหัวใจมากมายขนาดไหน และเขาหรือเธอจะหลีกหนีคำสาปพวกนั้นได้อย่างไร

ใครว่าผมเป็นหมอผี
ผู้เขียน : สุธี ปิงสุทธิวงศ์
อีกหนึ่งนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนอีกรสชาติ ที่ผสมผสานกลิ่นอายความลึกลับสไตล์ไสยศาสตร์แบบไทยๆ โดยผู้เขียนค้นคว้าวิชาไสยศาสตร์มาจริง เพื่อความสมจริงของเนื้อหา เขียนโดย สุธี ปิงสุทธิวงศ์ นักเขียนที่เคยได้รับรางวัลสุภาว์ เทวกุลฯ ประจำปี พ.ศ. 2549
ใครว่าผมเป็นหมอผี มีความหนาอยู่ที่ 192 หน้า ไม่สั้นไม่ยาวเกินไปที่จะอ่านได้เพลินๆ ด้วยการดำเนินเรื่องที่ไม่เอื่อย โดยเรื่องย่อๆ ภายในเล่ม เป็นเรื่องราวของ “ทิม” ทายาทตระกูลไสยศาสตร์ชื่อดัง ผู้หันหลังให้วิชาอาคมทั้งหลายเพราะกลัวผีแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นในอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งหญิงสาว “ฉัตรพร” ที่เขาหมายปองเป็นเจ้าของทิมจำต้องรื้อฟื้นวิชาไสยศาสตร์ที่เคยร่ำเรียนมา เพื่อช่วยล้างอาถรรพ์ให้กับอาคารแห่งนั้นแต่เขาไม่รู้เลยว่าการกลับมาใช้วิชาไสยศาสตร์ครั้งนี้จะทำให้เกิดอันตรายขึ้นกับคนรอบตัวแม้แต่ตัวเขาเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด และหากอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรแนะนำว่าให้ติดตาม เหมาะมากกับนักอ่านนิยายที่ชอบเรื่องผี เรื่องไสยศาสตร์

บ่วงสไบ
ผู้เขียน : ภาคินัย
บ่วงสไบ อีกหนึ่งผลงานนักเขียนแนวสยองขวัญ ภาคินัย ที่มีผลงานโด่งดังมากมาย และถูกดัดแปลงไปบทละครหลายเรื่อง อาทิ “ซีรีส์7วันจองเวร “ ช่องเวิร์คพอยท์ทีวี และนางชฏา” ช่อง 7 เป็นต้น สำหรับ บ่วงสไบ ก็เคยถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างละคร ออกฉายทางช่อง 7HD เมื่อปี 2019
นิยายสยองขวัญเล่มนี้ พูดถึงตัวละคร ที่ไม่ได้เกิดมามีบุญวาสนาเท่าเทียมกัน ดังเช่น “พุดจีบ” ลูกของ “คุณหลวงนฤเดช” ซึ่งมีทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา ผิดกับ “แก้ว” ลูกเมียทาสที่มีเรื่องให้คุณหลวงยอมไม่ได้ จนเฆี่ยนตี “นางอิ่ม” แม่ของแก้วจนตาย ด้วยเหตุนี้ทำให้ลูกนางทาสอย่างแก้ว เก็บความแค้นฝังใจ ว่าสักวันจะต้องได้ทุกอย่างมาเป็นของตน และเรื่องราวร้ายๆ ก็เกิดขึ้น ถ้าชอบแนวพีเรียด ความรักผสมดราม่า แฝงกลิ่นอายสยองขวัญ ขอให้เลือกยืมเล่มนี้โลด

Taxi รถส่งตาย
ผู้เขียน : ก้าวไกล
ผู้โดยสารก้าวขึ้นมาปลายทางอยู่ข้างหน้า เราจะพาคุณไปตาย! นี่คือคำโปรยของนิยายสยองขวัญเล่มนี้ ส่วนพล็อตเกี่ยวพันกับแท็กซี่หนุ่มชื่อว่า “ธงชัย” ผู้โดนพระทักว่าดวงตก ในคืนหนึ่งเขาได้พบกับผู้โดยสารสาวแสนสวย และหลังจากที่ฟังเรื่องเล่าวิญญาณจากธงชัยแก้ง่วงเธอก็ขอเล่าเรื่องหลอนของตัวเองบ้าง ชายหนุ่มได้ฟังเรื่องราวของ “ศริญญา” หญิงสาวที่มีโชคชะตาไม่ราบรื่นนัก แต่ยิ่งรับรู้เรื่องราวชีวิตของของเธอมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เขาไม่สบายใจมากขึ้น
การตายของศริญญาเหมือนมีปริศนาที่ซ่อนเร้นอยู่ ซึ่งนักอ่านสามารถหาคำตอบเพิ่มเติมได้ในเล่ม ว่าสุดท้ายเรื่องราวทั้งหมดนั้นจะดำเนินต่อไปอย่างไร (เพราะถ้าเล่าอีกนิดก็อาจเป็นการสปอย์ได้) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหานิยายสยองขวัญกรุบกริบ Taxi รถส่งตาย จัดอยู่ในหมวดคนที่กลัวผีสามารถอ่านได้ ให้ระทึกพอตัว ขณะเดียวกันก็อาจทำให้ไม่กล้าขึ้นแท็กซี่ตอนกลางคืนได้เหมือนกัน

หุบผาเจ้านาง
ผู้เขียน : มายาโรส
สำหรับนักอ่านที่หลงใหลแนวพีเรียดล้านนาผีๆ ทางเหนือ “หุบผาเจ้านาง” เป็นอีกเล่มที่ตอบโจทย์ โดยเรื่องย่อเล่าถึงเรื่องราวบนหุบผาสูงชันที่มีตำนานขับขาน ว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นแดนประหารเจ้าหญิงผู้มีจิตวิปริตเกินมนุษย์ผู้คนต่างขนานนามสถานแห่งนี้ว่า “หุบผาเจ้านาง” หลังอุบัติเหตุครั้งใหญ่ เอื้องผึ้ง สูญเสียพ่อแม่ สูญสิ้นทุกสิ่ง รามแสงเจ้าของ “คุ้มเชียงอินทร์” ผู้รักเอื้องผึ้งดุจน้องสาวอาสาให้ที่พักพิงส่วน นราธิป พ่อเลี้ยงหนุ่มทรงอำนาจหยิบยื่นน้ำใจด้วยการรักษาที่ดินของเธอไว้ระหว่างพักอยู่ ณ คุ้มโบราณ ทั้งรามแสงและเอื้องผึ้งไม่รู้ว่าใครบางคนกำลังเฝ้าคอยทุกค่ำคืน
นอกจากนี้ยังมีช้างพลายลึกลับในป่าจะแผดร้องโหยหวนดังเพรียกหา เล่าลือกันว่ามันคือพลายงาดำอายุร้อยปีซึ่งมีสางชั่วร้ายคอยคุ้มครองบางครั้งจะยินเสียงพิณเปี๊ยะแผ่วมาพร้อมเสียงรำพึงแสนเศร้าของบุรุษผู้หนึ่ง เอื้องผึ้งไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า หุบผาสูงชัน ช้างพลายงาดำ เสียงพิณเปี๊ยะและสางร้าย ได้พันธนาการวิญญาณมืดดำของใครบางคนไว้กับความเคียดแค้นดวงวิญญาณที่อัดแน่นด้วยเพลิงร้อนแห่งความชิงชังจนขนลุกชันเรียกว่าเป็นนวนิยายที่ไม่ได้เป็นแค่เรื่องสยองขวัญ แต่เล่าถึงเรื่องราวความรักการให้อภัย วิถีความผูกพันระหว่างคน สัตว์ ธรรมชาติ และยังสอดแทรกภูมิปัญญาของชาวล้านนาในอดีตไม่ว่าจะเป็น โกโล่ง (โครงล้านนา) ไปจนถึงผะหญาล้านนา (ปรัชญาล้านนา) เป็นต้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *