5 หนังสือวรรณกรรม นวนิยายเรื่องสั้น

5 หนังสือวรรณกรรม/นวนิยาย/เรื่องสั้น BY JanU

จากความประทับใจที่ให้อะไรมากกว่าความสนุก

นอกจากซีรีส์ เพลง หนัง ละคร ผู้เขียนคิดว่าหนังสือก็เป็นสิ่งที่ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดได้ดีมากอีกอย่างหนึ่ง อาจจะไม่ได้เห็นภาพจริงอย่างหนังซีรีส์ แต่ก็มีการใช้คำชวนคิดภาพตาม และภาพนั้นจะเด่นชัดในความรู้สึกผู้อ่านแน่นอน ใครที่อยากจะเริ่มอ่านหนังสือแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ผู้เขียนขอแบ่งปันวรรณกรรมแปล/นวนิยาย 5 เล่มนี้เลย คัดมาแล้วเน้นๆว่าจะต้องฝากความประทับใจให้ทุกคนแน่นอน

1.ศูนย์รับฝากความเสียใจ : ซื่ออีCredit : www.se-ed.com

ผู้เขียน : ซื่ออี

เรื่องย่อ : สถานที่ที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะค้นพบได้นี้ ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าใต้ดินของสถานีรถไฟไทเป เป็นพื้นที่ที่จะเห็นได้แค่ช่วงรอยต่อของสัปดาห์อย่างวันพุธ เวลาเปลี่ยนผ่านกลางวันและกลางคืนคือสิบเจ็ดนาฬิกาถึงสิบเก้านาฬิกา นอกจากนั้นคือสถานที่นี้จะอนุญาตแค่คนสองแบบที่จะได้พบคือบุคคลที่กอดเก็บความเสียใจอันแรงกล้าและเจ้าหน้าที่รับฝากความเสียใจเท่านั้น ศูนย์รับฝากความเสียใจพูดง่ายๆก็เหมือนไปรษณีย์ส่งของ หากแต่จุดต่างคือสิ่งนี้จะส่งกลับไปในอดีตและมีเงื่อนไขการส่งไปด้วย คือ จะต้องสามารถระบุวันเวลาที่เจอบุคคลนั้นได้ และจะต้องเป็นคนที่เคยพบหน้ากันแล้ว ด้วยเงื่อนไขพวกนี้รวมถึงสถานที่ที่ไม่ใช่ทุกคนจะพบได้ การชดเชยความเสียใจให้คนที่จากไปจึงเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่ใช่หรือที่ว่านั่นเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของศูนย์รับฝากความเสียใจ

Advertisement

ความรู้สึกถึงเล่มนี้ : จริงๆผู้เขียนเจอเล่มนี้ตอนช่วงงาน LIT fest ช่วงต้นปี ตอนนั้นยังไม่ได้ซื้อ แต่ตอนนั้นก็เล็งไว้แล้วว่าจะต้องซื้อให้ได้ แอบสารภาพว่าตอนแรกคิดว่าจะคล้ายๆกับนามิยะ แต่จริงๆแล้วก็ไม่เชิงนะ เพิ่งจะมาได้อ่านช่วงสามเดือนก่อน ต้องบอกว่าเล่มนี้ทำให้ผู้เขียนเข้าใจความเศร้าและอยู่กับสิ่งนั้นได้ดีขึ้น ภาษาเข้าใจง่าย แปลออกมาแล้วไม่งง ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจเนื้อเรื่อง ชอบการเชื่อมโยงตัวละครและเหตุการณ์ทั้งหมด เลยยกให้เป็นหนังสืออีกเล่มที่รู้สึกประทับใจและอยากแนะนำต่อให้ทุกคนได้อ่านจริงๆนะ 🙂

2.ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ : ฮิงาชิโนะ เคโงะ

Credit : www.se-ed.com

ผู้เขียน : ฮิงาชิโนะ เคโงะ

เรื่องย่อ : เรื่องของหัวขโมยสามคนที่กำลังหนีตำรวจอยู่ แต่แล้วรถกลับเสียกลางทางเลยจำเป็นต้องหาที่ซ่อน จากนั้นทั้งสามคนก็ไปพบร้านชำแห่งหนึ่งที่ดูเก่าคร่ำครึ เมื่อเข้าไปก็พบว่าเวลาภายในและภายนอกไม่เท่ากัน ผ่านไปสักพักมีจดหมายปริศนาถูกส่งเข้ามาที่นี่ เล่าเรื่องปัญหาที่ตนเองเจอและต้องการคำแนะนำ ทั้งสามคนนึกสนุกจึงตอบกลับจดหมายไป แต่ก็มีจดหมายฉบับใหม่ส่งกลับมาโดยเนื้อความในนั้น หากไม่อ่านจดหมายตอบกลับฉบับก่อนจะไม่มีทางเขียนออกมาได้  มากกว่านั้นคือจดหมายฉบับนี้ถูกเขียนขึ้นเมื่อ 40 ปีก่อน เมื่อรู้ว่าที่แห่งนี้เป็นจุดที่มิติกาลเวลาบรรจบกัน ร้านชำที่เคยให้คำปรึกษาจากการตอบจดหมายอย่างตั้งใจของเจ้าของร้าน ปาฏิหาริย์นี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งได้หรือเปล่า

Advertisement

ความรู้สึกถึงเล่มนี้ : เล่มนี้ผู้เขียนซื้อตามศิลปินที่ชอบเมื่อปีที่แล้ว (พูดง่ายๆคือเขาอ่านอะไร เราอ่านด้วย) เล่มนี้คือเกินคาดมากๆเพราะปกติไม่ค่อยจะอ่านแนวนี้เท่าไหร่ เนื้อเรื่องรวมถึงการตัดสินใจต่างๆของตัวละครให้ความประทับใจกับผู้เขียนมาก ตอนอ่านก็คิดตามไปว่าถ้าคนในเหตุการณ์นั้นเป็นตัวเองขึ้นมา เราจะทำยังไง แล้วผลจะออกมาได้ดีหรือเปล่า ใจก็คิดว่าถ้ามีสถานที่แห่งนี้จริงๆน่าจะลองเขียนจดหมายไปบ้าง ไม่ว่าคำแนะนำของคนอื่นจะเป็นยังไง สุดท้ายคนที่เลือกความเป็นไปของสิ่งต่างๆคือเราไม่ใช่ใครอื่น ตัวละครทุกตัวทำให้ผู้เขียนเห็นแบบนั้น

3.1991 ระหว่างเราสูญหาย : พิมประภา

Credit : www.se-ed.com

ผู้เขียน : พิมประภา

เรื่องย่อ : รวมเรื่องสั้นทั้งหมด 15 เรื่องที่เล่าถึงความสัมพันธ์ที่การสื่อสารระหว่างคนสองคนสูญหายไป ตัวเราอยู่ท่ามกลางความเศร้าที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบๆ บางครั้งก็เลือนลางจนไม่สามารถจะมองเห็นทางออกได้ ซึ่งเปรียบเทียบกับดวงดาวที่รอคอยการค้นพบจากใครสักคนอย่างมีความหวัง และการถ่ายทอดความรักที่ไม่มีคำนิยามตายตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจริงๆแล้วความรักกับความเศร้าก็มีมุมมองเป็นเรื่องเดียวกัน

Advertisement

ความรู้สึกถึงเล่มนี้ : เล่มนี้เกิดจากความชอบในตัวนักเขียนล้วนๆ (แอบบอกนิดนึงว่าทุกๆเล่มที่ของเขา ผู้เขียนมีลายเซ็นครบทุกเล่มเลย) ด้วยความที่ตามเขาตั้งแต่ในแฟนเพจนี่แหละ พอเขียนออกมาเป็นเล่มแล้วก็ต้องอุดหนุนหน่อย ยังมีหลายคำที่โดนใจแล้วก็เติมเต็มคามรู้สึกลึกๆของผู้เขียนด้วยว่าเรามีค่าเสมอในสายตาของคนที่เห็นค่าของเรา มันทำให้ผู้เขียนพยายามมองหาคนๆนั้นในชีวิตแล้วก็พยายามรักษาเขาไว้อย่างดีที่สุด ใครที่กำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ดั่งใจเราเท่าไหร่หรือกำลังรู้สึกไร้ค่า ความเศร้าบดบังทุกสิ่ง ลองอ่านเล่มนี้ดู 🙂

4.คำขอสุดท้ายของผู้ตายถึงผม : ฟุจิมารุ

ผู้เขียน : ฟุจิมารุ

เรื่องย่อ : เด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายที่ชีวิตกำลังจะไปได้สวยทางด้านกีฬาแต่ก็มาเจอปัญหาของครอบครัวและตัวเองที่บาดเจ็บจนไม่สามารถซ้อมกีฬาหนักๆได้อย่าง ซาคุระ ชินจิ ชีวิตของเขาที่มีแต่ความเสียใจภายหลัง วันนึงก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อนักเรียนสุดสวยร่วมชั้น ฮานาโมริ ยูกิ ชวนให้ทำงานพิเศษซึ่งงานนั้นเรียกได้ว่าสิ่งที่ตอบดูไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ อย่างงานนี้มีค่าตอบแทนเพียงชั่วโมงละ 300 เยน ไม่มีค่าเดินทาง ไม่มีค่าล่วงเวลา เรียกได้ตลอดเวลาทั้งดึกดื่นและเช้าตรู่ แต่ข้อเสนอที่ว่าหากทำครบครึ่งปี จะสามารถขออะไรก็ได้หนึ่งอย่างทำให้เขาตกลงที่จะทำ งานนี้คือการเป็นยมทูต หน้าที่หลักๆคือขจัดความอาลัยอาวรณ์ของผู้ตายให้ไปสู่สุคติ แต่ก็เป็นงานนี้ที่ทำให้ซาคุระผู้มีแต่ความเสียใจภายหลัง ก้าวต่อไปได้ เพราะอะไรกัน

ความรู้สึกถึงเล่มนี้ : เล่มนี้เป็นหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆจากงานหนังสือ งงเหมือนกันที่ว่าลิสต์หนังสือที่ตั้งใจจะซื้อที่ไม่ได้มีเล่มนี้อยู่ สุดท้ายก็หยิบมาจนได้ สงสัยคงจะเป็นช่วงเวลาที่จะต้องได้อ่านสักที ส่วนตัวประทับใจในความสัมพันธ์ของฮานาโมริกับซาคุระที่สุด ถึงจะเป็นเวลาแค่ครึ่งปี แต่ก็ทำให้เห็นว่าผ่านอะไรด้วยกันมาตั้งมากมาย แล้วก็ได้เห็นมุมของซาคุระที่ดูจะมีแต่ความเศร้าเสียใจ แต่ช่วงเวลากับฮานาโมริก็เป็นความสุขของซาคุระ มันเหมือนเป็นความรู้สึกอบอุ่นในใจตอนได้อ่าน เล่มนี้ผ่าน

5.เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น : คาวางุจิ โทชิคาซึ

Credit : www.se-ed.com

ผู้เขียน : คาวางุจิ โทชิคาซึ

เรื่องย่อ : มีตำนานประจำเมืองที่พูดถึงร้านกาแฟแห่งหนึ่งว่า ร้านกาแฟแห่งนี้สามารถย้อนเวลากลับไปยังอดีตได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ กฎที่จะย้อนเวลาไปได้ค่อนข้างยุ่งยากเกินกว่าที่จะใช้ได้  และเรื่องราวของบุคคลสี่คู่ คือหนึ่ง คู่รักที่กำลังไปได้สวยแต่แฟนหนุ่มจะต้องไปทำงานที่อเมริกา สอง พยาบาลสาวที่กลายเป็นคนแปลกหน้าของสามีจากอาการอัลไซเมอร์ของเขา สาม พี่สาวที่เลือกละทิ้งกิจการครอบครัวและหลบหน้าน้องสาวที่พยายามตามกลับบ้าน และสี่ภรรยาเจ้าของร้านกาแฟแห่งนี้ที่ร่างกายอ่อนแอ และตั้งครรภ์อยู่ โดยเธอเลือกที่จะรักษาลูกไว้แต่สิ่งนี้ต้องแลกกับชีวิตเธอเอง เงื่อนไขสำคัญคือไม่ว่าจะทำวิธีไหน ด้วยอะไร ไม่ว่ายังไงอนาคตจะไม่เปลี่ยนแปลง ถ้ารู้แบบนี้แล้ว คุณยังอยากกลับไปอีกหรือเปล่า

ความรู้สึกถึงเล่มนี้ : เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่ได้งานหนังสือ และเป็นเล่มที่ไม่อยู่ในลิสต์ตามเคย แต่ก็รู้สึกดีใจที่สุดท้ายเลือกที่จะหยิบมา ได้มุมมองอะไรใหม่ๆจากเล่มนี้ค่อนข้างเยอะ ภาษาเข้าใจง่าย แปลออกมาไม่กำกวม เรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนเข้าใจเรื่องของอดีตมากกว่าเดิมและปล่อยวางอะไรหลายอย่างได้ แล้วก็อนาคตเปลี่ยนแปลงได้จากตัวเรา ไม่ใช่เก้าอี้ตัวนั้น ดีใจมากๆที่หยิบมา

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับห้าเล่มที่คัดมา ใครสนใจก็ไปตามกันได้เลยน้า จริงๆแล้วอ่านเยอะกว่านี้มากๆเลย ใครที่จะเปิดโลกการอ่านของตัวเอง ผู้เขียนเชื่อว่า 5 เล่มนี้เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆแล้ว คัดมาเน้นๆสำหรับทุกคน ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตรงนี้ เจอกันใหม่เรื่องหน้า 🙂

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *