เรื่องราวเกี่ยวกับความผูกพันของนักเรียน นักศึกษากลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกในรั้วมหาวิทยาลัยเปิดใหม่นอกกรุงเทพมหานคร แต่ละคนมาจากคนละที่ ต่างถิ่น ต่างความคิด และต่างนิสัย แต่ไม่มีวันทอดทิ้งกัน แม้ในยามเกิดปัญหา ความเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากก็คอยให้กำลังใจกัน ร่วมสุขร่วมทุกกัน มีความจริงใจมอบให้แก่กัน ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคหรือปัญหามาด้วยกันได้
ราตรีประดับดาว หนึ่งในเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีความไพเราะจับใจผู้ฟังอย่างยิ่ง ทั้งเนื้อร้องและทํานอง รวมทั้ง ว.วินิจฉัยกุล ศิลปินแห่งชาติ ก็ได้นําเพลงนี้มาบรรจุไว้ในนวนิยาย เรื่องราตรีประดับดาว โดยให้มีบทบาทสําคัญในชีวิตของตัวละครเอก
“เกด” และ “คุณนาถ” ได้อย่างเหมาะสมกลมกลืนด้วยเหตุการณ์ในนวนิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นั้น ผู้เขียนยังได้สอดแทรกเหตุการณ์สําคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในช่วงดังกล่าว คือการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๕ และกบฏบวรเดชที่เกิดขึ้นตามมาในปี พ.ศ.๒๔๗๖ ซึ่งทําให้ผู้อ่านได้รับทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งสองในอีกแง่มุมหนึ่งด้วย
วิญญาณของเรือนไม้สีเบจ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผมคงจะเป็นเพราะเราเห็นกันมาตั้งแต่เกิด เราเคยสุขร่วมกันเมื่อครอบครัวยังอยู่พร้อมหน้า เคยเหงาด้วยกันเมื่อคนอื่นๆแต่ละคนพากันจากไป เมื่อสาวน้อยคนหนึ่งก้าวเข้ามา…เธอก็นำชีวิตชีวาเข้ามาให้ทั้งผมและเรือนหลังนี้ เธอรักและไม่ทอดทิ้งบ้าน เช่นเดียวกับเธอทำกับผม
เรื่องราวความรักของ มุก หญิงสาวที่เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยกับ อาร์ม ชายหนุ่มที่มีเพียงบ้านสีเบจมรดกตกทอดจากคุณยาย ที่ไม่มีอะไรเหมาะสมกับมุกเลยสักอย่าง การก้าวผ่านอุปสรรคของความไม่เหมาะสมของอาร์ม และทัศนคติมองโลกในแง่ดีของมุก ทั้งคู่จะจับมือกันก้าวผ่านขวากหนามนี้ไปได้หรือไม่ นิยายความรักในแบบฉบับของ ว.วินิจฉัยกุล ที่เคยสร้างเป็นละครมาแล้วในปี 2547
